วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ดร.มาร์ตินส์ ป๊อปอัพ สโตร์ สยามเซ็นเตอร์ ความพิเศษล่าสุดโดนใจวัยรุ่น จากแบรนด์รองเท้าระดับตำนาน

ดร.มาร์ตินส์ ป๊อปอัพ สโตร์ สยามเซ็นเตอร์  ความพิเศษล่าสุดโดนใจวัยรุ่น จากแบรนด์รองเท้าระดับตำนาน





ดร.มาร์ตินส์ (Dr.Martens) แบรนด์รองเท้าชื่อดังระดับตำนานจากอังกฤษที่ปัจจุบันก็ยังคงความนิยมทั้งในกลุ่สาวกและวัยรุ่นที่รักการแต่งตัว ด้วยการพัฒนารูปแบบดีไซน์ให้เข้ากับคนรุ่นใหม่ เป็นเทรนด์แฟชั่นที่โดดเด่นและมีเอกลักษณ์ ทั้งบู๊ต รองเท้าทั่วไป ตลอดจนแอคเซสซอรี่ต่างๆ ที่ต้องบอกว่ามีดีไซน์ที่ไม่เหมือนใคร โดนใจเหล่าวัยรุ่นที่แต่งตัวในสไตล์ที่เป็นตัวของตัวเองเป็นอย่างมาก 

และด้วยกระแสความนิยมดังกล่าว ดร.มาร์ตินส์ ในประเทศไทย เลยเอาใจวัยรุ่นรักการแต่งตัว ด้วยการเปิดป๊อปอัพ สโตร์ (Pop Up Store) ใจกลางย่านวัยรุ่น ที่โซนอิน เซคกันดา (In Seconda) ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ที่งานนี้บอกได้คำเดียวว่า ทั้งฮิป และพิเศษสุดๆ กับการนำรองเท้าและแอคเซสซอรี่ทั้งที่เป็นเทรนด์ล่าสุดพร้อมๆกับเมืองแฟชั่นทั่วโลก และที่สำคัญคือบางคู่ยังเป็นรุ่นลิมิเต็ด ที่รับรองว่าคุณจะใส่ไม่ซ้ำใครเลยทีเดียว 

บอสสาวของ ดร.มาร์ตินส์ ประเทศไทย อวยพร กองพัฒนากูล ผู้จัดการทั่วไป บริษัท โอ.ที.ที. ฟุตแวร์ จำกัด กล่าวถึงที่มาของการเปิดป๊อปอัพสโตร์แห่งนี้ว่า การเปิดป๊อปอัพสโตร์เป็นแนวคิดด้านการตลาดที่กำลังเป็นที่นิยมของวงการแฟชั่นปัจจุบัน ที่เป็นทั้งการส่งเสริมการขายและการโปรโมทแบรนด์ในคราวเดียวกัน ซึ่งทางดร.มาร์ตินส์ได้เล็งเห็นแล้วว่า ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ เป็นแหล่งช้อปของวัยรุ่นกลุ่มเป้าหมายของดร.มาร์ตินเอง จึงเป็นสถานที่ซึ่งเหมาะกับการทำป๊อปอัพสโตร์เป็นอย่างมาก

“เรามีสินค้าพิเศษที่ไม่สามารถพบเห็นได้ที่จุดขายปกติทั่วไปของดร.มาร์ตินส์  ไม่ว่าจะเป็นกระเป๋าหนัง รองเท้ารุ่นใหม่ล่าสุด หรือรองเท้ารุ่นลิมิเต็ด หลายๆรุ่น ที่มีมาให้แฟนคลับ ของดร.มาร์ตินส์ได้สัมผัสกันถึงที่ โดยจะเปิดถึงเพียงแค่กลางเดือนสิงหาคมนี้เท่านั้น”

ด้านเซเลบริตี้คนรัก ดร.มาร์ตินส์ อย่าง ฉัตรทิพย์ จันทร์เลิศฟ้า เซเลบริตี้สาวสวยที่ให้เกียรติเยี่ยมชมป๊อปอัพสโตร์ของ ดร.มาร์ตินส์ ได้แสดงความเห็นว่า การเปิดป๊อปอัพสโตร์ นับว่าเป็น  เทรนด์เกี่ยวกับสินค้าแฟชั่นที่กำลังมาแรง สามารถพบเห็นได้มากขึ้นในปัจจุบัน ซึ่งนับว่าสะดวกต่อผู้บริโภค ทั้งยังถือเป็นการให้บริการแก่กลุ่มลูกค้าอีกรูปแบบหนึ่งด้วย โดยเฉพาะกลุ่มลูกค้าที่ไม่ชอบการสั่งซื้อสินค้าออนไลน์ เนื่องจากไม่ได้สัมผัสตัวสินค้าจริง จึงเกิดความไม่มั่นใจ โดยเฉพาะรองเท้า ที่ต้องดูให้ดีกว่าสินค้าชนิดอื่น ทั้งเรื่องของพื้นรองเท้า ความสูง และที่สำคัญคือขนาดของรองเท้า ถ้าไม่ได้ลองของจริง จะไม่สามารถรู้ได้เลยว่าพอดีกับเราหรือไม่

“ปกติเป็นคนแต่งตัวสบายๆ เอาที่เราคล่องตัว การเลือกรองเท้า ก็ต้องดูลักษณะการแต่งตัว และดูสถานที่ที่เราไป อย่างเวลาไปเที่ยวต่างประเทศก็จะพกรองเท้าบู้ตไปด้วยสักหนึ่งคู่ เพราะเป็นรองเท้าที่หาชุดมาแมทช์ได้ง่าย เดินสะดวก อีกทั้งยังสามารถไปตามสถานที่ต่างๆ ได้ทุกที่ แค่มีบู้ตคู่เดียวจบ โดยส่วนใหญ่ก็จะเป็นสีค่อนข้างเรียบ เพราะต้องเอาให้แมทกับการแต่งตัวได้หลายๆ แนว สีเรียบๆ ก็จะเป็นอะไรที่สามารถเข้าได้กับทุกชุดอยู่แล้ว ซึ่ง ดร.มาร์ตินส์ ก็มีรองเท้าบู้ตให้เลือกเยอะ และเราก็รู้จักแบรนด์นี้ แล้วก็ชอบมาตั้งแต่เด็กๆ แล้วด้วยค่ะ” เติร์ด - ฉัตรทิพย์กล่าว

ส่วนหนุ่ม อาร์ม วีรยุทธ จันทร์สุข หนึ่งในสมาชิกวง รุกกี้บีบี (Rookie BB) ที่ได้แวะมาเยี่ยมชม ป๊อปอัพ สโตร์ ของ ดร.มาร์ตินส์ ได้เปิดเผยว่า การเปิด ป๊อปอัพสโตร์ ที่ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ เป็นการนำเสนอผลิตภัณฑ์ได้เข้าถึงกลุ่มลูกค้ามาก เพราะกลุ่มวัยรุ่นที่เดินเที่ยวศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ส่วนใหญ่ ก็นับว่าเป็นกลุ่มลูกค้าเป้าหมายของดร.มาร์ตินส์ และเมื่อเด็กวัยรุ่นมาเดินเยอะ การที่มีป๊อปอัพสโตร์มาบริการถึงที่ ก็จะเกิดการพบเห็นผลิตภัณฑ์ แล้วก็เกิดความสนใจ เข้ามาลองเลือก และซื้อกลับไป โดยเฉพาะถ้ามีเรื่องของโปรโมชั่น หรือมีรุ่นพิเศษมาโชว์ ก็จะยิ่งเกิดความต้องการซื้อมากขึ้น

“รองเท้าสไตล์ที่ชอบเลยคือบู้ต อย่างที่ใส่มาวันนี้ ก็เป็นบู้ตหุ้มข้อของ ดร.มาร์ตินส์ เพราะดูทะมัดทะแมง ไปได้ทุกโอกาส และแมทช์ได้กับทุกชุด ไม่ว่าจะขาสั้น ขายาวก็สามารถแต่งได้หมด อย่างเวลาที่ผมออกงาน หรือขึ้นคอนเสิร์ต ก็จะใส่บู้ตดร.มาร์ตินส์อยู่แล้ว เพราะอย่างที่บอกว่าเข้ากับการแต่งตัวได้ทุกแบบ ไม่ว่าจะอยากแต่งเซอร์ หรือแนวเท่ห์ๆ ส่วนสีที่ชอบ คือสีโทนเข้ม อย่างสีดำ น้ำตาล หรือสีเชอรี่ และที่สำคัญรองเท้าบู้ตยังช่วยในเรื่องของบุคลิก และช่วยเสริมรูปร่างได้ด้วย เพราะมักจะมีส้นที่สูงนิดหน่อยจึงช่วยเพิ่มความสูง ช่วยให้ขาและหุ่นดูเพรียวขึ้น” หนุ่มอาร์มกล่าวปิดท้าย

แฟนๆ ดร.มาร์ตินส์ที่สนใจ สามารถแวะเยี่ยมเยียนสัมผัสความพิเศษกันได้ที่ ดร.มาร์ตินส์ ป๊อปอัพสโตร์ ที่โซนอิน เซคกันดา (In Seconda) ชั้น 2 ศูนย์การค้าสยามเซ็นเตอร์ ตั้งแต่วันนี้ – กลางเดือนสิงหาคม นี้ เท่านั้น สอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ โทร. 0-2394-4379 หรือ ผ่านแฟนเพจ  www.facebook.com/Dr.MartensAirwairThailand

วันศุกร์ที่ 2 สิงหาคม พ.ศ. 2556

สปาไทยเตรียมจัดใหญ่ World Spa & Well-being Convention 2013 ยกระดับสปาไทย กระตุ้นการท่องเที่ยว คาดเงินสะพัดกว่า 100 ล้านบาท



สมาคมสปาไทย เดินหน้าสานต่อความสำเร็จอีกครั้ง เตรียมจัดงาน “World Spa & Well-being Convention 2013” มหกรรมแสดงสินค้าและนวัตกรรมด้านธุรกิจสปา พร้อมเฉลิมฉลองครบรอบ 10 ปี สมาคมสปาไทย หลังจากประสบความสำเร็จเป็นอย่างดีจากปีที่ผ่านมา โดยงาน World Spa & Well-being Convention 2013 ครั้งนี้ จัดขึ้นภายใต้แนวคิด “Education, Standards & Innovation” A Professional platform for the Spa & Well-being industry ด้วยการบริหารงานของบริษัท อิมแพ็ค เอ็กซิบิชั่น แมเนจเม้นท์ จำกัด พร้อมด้วยผู้สนับสนุนการจัดงาน กรมการท่องเที่ยว กระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กรมส่งเสริมการค้าระหว่างประเทศ กระทรวงพาณิชย์ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ กระทรวงสาธารณสุข การท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) สำนักงานส่งเสริมการจัดประชุมและนิทรรศการ (องค์การมหาชน) (สสปน.) หอการค้าไทย และสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย สภาอุตสาหกรรมท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย โดยมีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 21 กันยายน 2556 ณ อาคาร 4 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุม อิมแพ็ค เมืองทองธานี
มร. แอนดรู แจคก้า อดีตนายกสมาคมสปาไทยและประธานการจัดงาน กล่าวว่า ด้วยอัตราการเติบโตของอุตสาหกรรมสปาที่เพิ่มสูงขึ้นทุกปี ทำให้สปาเป็นธุรกิจที่ดึงดูดนักลงทุน และกลายเป็นธุรกิจที่มีความสำคัญในอุตสาหกรรมการท่องเที่ยวในปัจจุบันเป็นอย่างมาก โดยเฉพาะธุรกิจสปาในประเทศไทย ที่กำลังเป็นที่สนใจของชาวต่างชาติในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ประเทศไทยกลายเป็น “Land of Spa” ช่วยกระตุ้นการเติบโตของธุรกิจของประเทศ และการก้าวเข้าสู่ AEC ยังถือเป็นอีกหนึ่งความท้าทายสำหรับผู้ประกอบการเอสเอ็มอีของไทย โดยเฉพาะปัจจัยด้านคุณภาพ ซึ่งเป็นปัจจัยสำคัญที่จะนำไปแข่งขันกับนานาประเทศและการขยายตลาดในอนาคต
นายกรด โรจนเสถียร นายกสมาคมสปาไทย กล่าวว่า โดยธุรกิจสปาไทยมีอัตราการเติบโตอย่างต่อเนื่อง เฉลี่ยประมาณร้อยละ 5-6 ต่อปี สร้างรายได้กว่า 15,000-16,000 ล้านบาท โดยกลุ่มลูกค้าส่วนใหญ่ที่ใช้บริการเป็นนักท่องเที่ยวชาวต่างชาติถึงร้อยละ 80”


ในงาน World Spa & Well-being Convention 2012 ที่ผ่านมา ประสบความสำเร็จเป็นอย่างมาก ด้วยยอดผู้เข้าชมงานกว่า 4,600 คน จาก 37 ประเทศ และการแสดงนวัตกรรมใหม่ๆ ในธุรกิจสปา กว่า 90 บูธจากทั่วทุกมุมโลก ซึ่งก็เป็นสิ่งที่ช่วยการันตีได้ว่าประเทศไทยเราเป็นศูนย์กลางของการส่งออก และเป็นผู้นำด้านสปาของโลก งาน World Spa & Well-being Convention 2013 ในครั้งนี้ สมาคมสปาไทยจึงมุ่งที่จะส่งเสริมภาพลักษณ์ของประเทศไทยในตลาดสปาโลกเพิ่มมากขึ้น โดยการประสานคุณภาพของผู้ประกอบการและซัพพลายเออร์ทางธุรกิจ เพื่อยกระดับคุณภาพและมาตรฐานของบริการและนวัตกรรมต่างๆ ในธุรกิจสปา เพื่อยกระดับมาตรฐานสปาไทย ให้ประเทศไทยเป็นศูนย์กลางของการทำสปาที่มุ่งเน้นเรื่องมาตรฐานของการบริการและคุณภาพของอุปกรณ์ต่างๆ ซึ่งงานครั้งนี้ ถือเป็นโอกาสอันดีสำหรับผู้ที่สนใจและผู้ประกอบการธุรกิจสปาที่จะสร้างเครือข่ายทางธุรกิจระหว่างกัน และจะเป็นการสร้างมาตรฐานใหม่เพื่อส่งเสริมความแข็งแกร่งให้กับอุตสาหกรรมนี้ในอนาคตอีกด้วย โดยคาดว่าในปีนี้จะมีผู้เข้าชมงานกว่า 8,000 คน  โดยเฉพาะประเทศในกลุ่ม อาร์เมเนีย ออสเตรเลีย จีน อังกฤษ ฮ่องกง อินโดนีเซีย  ญี่ปุ่น มาเลเซีย สิงคโปร์ ไต้หวัน และหมู่เกาะแคริบเบียน” นายกรด กล่าวเสริม

งาน World Spa & Well – being Convention 2013 จะแบ่งการจัดงานออกเป็น 2 รอบ คือรอบการเจรจาธุกิจ และรอบค้าปลีกสำหรับประชาชนทั่วไป ซึ่งเน้นไปที่การทำความเข้าใจในการประกอบธุรกิจสปา รวมไปถึงการนำเสนอนวัตกรรมใหม่ๆ และการรวบรวมไฮไลท์เด็ดๆ ไว้อย่างมากมาย อาทิ การลงทะเบียนตามธาตุ โซนแห่งการเรียนรู้ มุมที่ปรึกษาด้านสปา โซนบูธนานาชาติ และกิจกรรมการจับคู่ทางธุรกิจ รวมทั้งการประกาศรางวัล Thailand Spa & Well-being Awards  

พร้อมกันนี้ ยังมีการออกบูธของผู้ให้บริการและจำหน่ายผลิตภัณฑ์สปา ทั้งในส่วนของอุปกรณ์และส่วนตกแต่งสปา ผู้จำหน่ายแพ็คเกจสปา ศูนย์การเรียนรู้สปาและสถาบันวิชาชีพสปา ผู้จำหน่ายหนังสือด้านธุรกิจสปา นักออกแบบและตกแต่งภายในสปา รวมทั้งผู้ให้คำปรึกษาด้านธุรกิจสปา ที่จะมีมาให้ชมอย่างครบครัน รวมทั้งสิ้นกว่า 150 บริษัท ทั้งในและต่างประเทศ บนพื้นที่กว่า 5,000 ตารางเมตร



งาน World Spa & Well – being Convention 2013 มีกำหนดจัดขึ้นระหว่างวันที่ 18 – 21 กันยายน 2556 โดยแบ่งเป็นวันเจรจาธุรกิจระหว่างวันที่ 18 – 20 กันยายน 2556 ในเวลา 10.00 – 19.00 น. และ          วันค้าปลีกสำหรับผู้ชมงานทั่วไป ในวันที่ 21 กันยายน 2556 นี้ ตั้งแต่ 10.00 – 20.00 น. ณ อาคาร 4 ศูนย์แสดงสินค้าและการประชุมอิมแพ็ค เมืองทองธานี หรือ สามารถติดตามรายละเอียดเพิ่มเติม                        ได้ที่ www.worldspawellbeing.com